วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

นางกากนาสูร
กายสี  ม่วงแก่
อยู่ฝ่าย  ทศกัณฐ์
อาวุทที่ใช้  กระบอง

ประวัติย่อๆ
นางกากนาสูร เป็นนางรากษกแห่งกรุงลงกา กายสีม่วงแก่ มีปากเป็นกา เป็นญาติชั้นยายของทศกัณฐ์ เป็นมารดาของสวาหุและมารีศ สามารถแปลงกายเป็นกาได้ ในพิธีอัญเชิญพระนารายณ์มาอวตาล ทศกัณฐ์ได้ใช้ให้นางกากนาสูรไปนำข้าวทิพมาให้
แต่นางกากนาสูรสามารถนำมาได้แค่ครึ่งปั้นเท่านั้น พอนางมณโฑได้กินแล้วได้ตั้งครรภ์และกำเนิดมาเป็นนางสีดา
เนื่องจากว่าทศกัณฐ์คิดอัจฉาพวกฤาษีที่มีตบะแข็งกล้า จึงสั่งให้นางกากนาสูรไปก่อกวนพวกฤาษีทุกๆ ๗ วัน แต่นางกากนาสูรได้ถูกพระราม และ พระลักษณ์ ปราบได้ในที่สุด

บทประพันธ์ที่เกี่ยวข้อง
เมื่อนั้น    ฝ่ายท้าวทศพักตร์ยักษี
ครอบครองไพร่ฟ้าประชาชี     เป็นปิ่นโมลีลงกา
ให้คิดอิ่มเอิบกำเริบฤทธิ์   ด้วยใจทุจริตอิจฉา
บัดนี้นักสิทธ์วิทยา   ล้วนมีวิชากระลาไฟ
เหาะเหินเดินโดยอัมพร   จะชุบศิลป์ศรก็ย่อมได้
จะมีสานุศิษย์ฤทธิไกร     นานไปจะเป็นไพรี
อย่าเลยกูจะให้ทำลาย     อันตรายพรตกรรมพระฤๅษี
ให้เสียการกิจพิธี     ซึ่งมีอุตส่าห์ตบะญาณ ฯ
ฯ ๘ คำ ฯ

ร่าย
๏ คิดแล้วผินพักตร์มาบัญชา   สั่งนางกากนาใจหาญ
ท่านจงพาพวกบริวาร     ไปเที่ยวจังทานพระมุนี
ให้เสียกิจกรรมจำเริญพรต      ทุกอาศรมบทพระฤๅษี
เจ็ดวันชวนกันไปโฉบตี   อย่าให้มีสุขสถาพร ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เจรจา

๏ บัดนั้น  นางกากนาชาญสมร
รับสั่งท้าวยี่สิบกร    บทจรออกจากท้องพระโรงคัล ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ จึ่งเรียกฝูงนางบริวาร   อันกล้าหาญฤทธิแรงแข็งขัน
เกลื่อนกลาดพื้นพงศ์กุมภัณฑ์  พร้อมกันนิมิตเป็นกา ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ ตระ เจรจา

๏ ครั้นเสร็จจำแลงแปลงตน    บินทะยานขึ้นบนเวหา
เสียงปีกกึกก้องโกลา      ดั่งว่าอากาศจะทำลาย ฯ
ฯ ๒ คำ ฯ แผละ

๏ มาถึงซึ่งอาศรมบท      แห่งพระนักพรตทั้งหลาย
บินว่อนร่อนร้องวุ่นวาย  ตาหมายฉาบโฉบลงมา
เย่อแย่งหลังคาอาศรม     หักถล่มดั่งต้องพายุกล้า
ไล่ขยิกจิกตีพระสิทธา     ฉวยเฉี่ยวชฎาวุ่นไป ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ฤๅษีโยคีน้อยใหญ่
เห็นกากนาบังอาจใจ      โฉบไล่จิกตีจุลาจล
ต่างองค์ตระหนกอกสั่น   วิ่งพะปะกันสับสน
ตื่นแตกแยกไปทุกตำบล  อลวนไม่เป็นสมประดี ฯ
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ บัดนั้น  นางกากนาสูรยักษี
ครั้นเห็นคณะพระโยคี    แตกหนีจากบรรณศาลา
ต่างตนรนร้องก้องกึก     ครึกครั่นสนั่นไปทั้งป่า
แล้วพากันบินขึ้นเมฆา    กลับไปลงกาเวียงชัย ฯ

จาก บทละครเรื่องรามเกียรติ์ สมุดไทยเล่มที่ ๑๕